วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ถนน "เจริญกรุง"ถนนแบบตะวันตกสายแรกของประเทศไทย

   ถนนสายใหม่ สายแรกในประเทศไทย

          แรกเริ่มเดิมทีไทยไม่มีการตัดถนนแบบ เรียบๆแบนๆ ดูมีแบบแผน เราใช้ถนนที่เรียกว่า "ทางเกวียน " ในการสันจรทางบก  ดังนั้นเมื่อมีการตัดถนนใหม่ ชื่อว่า "ถนนเจริญกรุง" จึงเป็นถนนแบบตะวันตกสายแรกในประเทศไทยของเรา และถูกแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ "ถนนเจริญกรุงตอนใน"และ "ถนนเจริญกรุงตอนนอก "


 แรกกำเนิด

              ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชการที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2404-2407 มีความยาวรวมกันทั้งสิ้น 8,575 เมตร โดยมีเจ้าพระยาศรีสุริยะวงศ์ (ช่วง  บุญนาค) เป็นผู้ดูแลการสร้าง พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง เป็นนายงาน  นายเฮนรี่  อาลาศเตอร์ (ต้นตระกูลเศวตศิลา) เป็นผู้สำรวจถนนและเขียนแบบ  โดยใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบตะวันตก  โดยเอาอิฐปูนเรียงตะแคง ให้ตรงกลางนูนน้ำจะได้ไม่ขังนอง  

ความหมายของถนนเจริญกรุง

            ช่วงแรกคนไทยมักเรียกถนนเส้นนี้ว่า "ถนนใหม่" ส่วนฝรั่งเรียกว่า "New Road" และชาวจีนเรียกว่า  "ซินพะโล้ว" ซึ่งทั้งหมดมีความหมายเดียวกันว่า  "ถนนใหม่" ต่อมาในปี 2411 รัชการที่ 4 ได้พระราชทานชื่อว่า "ถนนเจริญกรุง" มีความหมายตามตัวว่า ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง และห้ามเรียกชื่ออื่นกันอีกต่อไป 

สาเหตุการตัดถนนเส้นนี้

เกิดจากชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยขณะนั้นเข้าชื่อทำเรื่องถวายว่า   เดิมชาวยุโรปขี่รถขี่ม้าเที่ยวตากอากาศเป็นกิจวัตรขณะอยู่ประเทศเดิมของตน  ซึ่งเป็นการพักผ่อนและออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพทำให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แต่เมื่อเข้ามาพักอาศัยในกรุงเทพฯ ปรากฎว่าไม่มีถนนหนทางแบบทันสมัยสำหรับขี่รถขี่ม้าตากอากาศ จึงเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยตามกัน




อ้างอิงจากหนังสือ 50 สิ่งแรกในเมืองไทย


10 วิธีที่ระบบการศึกษาของเรา สามารถช่วยกระตุ้นความคิดของเด็ก

                         การกระตุ้นความคิดของเด็ก

             

 โลกกำลังเปลี่ยนไปอย่ารวดเร็ว มีเทคโนโลยีมากขึ้น ออนไลน์กันมากขึ้น และกฏข้อบังคับมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นสิ่งที่เด็กๆและพวกเราที่เหลือทุกคน  จำเป็นต้องมีคือ การคานกำลัง เราจำเป็นต้องมีอิสระภาพในการลองผิดลองถูกและทำในสิ่งที่ไม่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทำตัวสบายๆมากขึ้น มีกระดาษเปล่าและดินสอมากขึ้น รวมทั้งโฟกัสในสิ่งที่เราทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ 

"เราไม่ได้กำลังจะต่อต้านเทคโนโลยี  

เพียงแต่ว่าเราอย่าหลงลืมความเป็นมนุษย์"



10 วิธีที่โรงเรียนสามารถใช้กระตุ้นความคิดเด็กได้ในยุคเทคโนโลยี


1. เน้นให้เล่นแบบอิสระแทนที่จะเล่นแบบมีกฎและข้อบังคับ  เพื่อหลีกเลี่ยงการขวางกั้นจินตนาการ

         2. อย่าเน้นผลลัพธ์เท่านั้น  เพราะเป้นความคิดที่คับแคบ

         3. อย่าหมกมุ่นกับเทคโนโลยีสารสนเทศจนละเลยหนังสือและครู

4. .ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์และการใช้เหตุผลเพื่อสร้างความคิดริเริ่มและเต็มไปด้วยจินตนาการ  ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของบริษัทต่างๆ

5. ลดการบ้านให้น้อยลงเพื่อเพิ่มเวลาให้กับครอบครัวและสนับสนุนให้มีการใช้จินตนาการในการเล่นแบบอิสระ

6. หาทางช่วยให้พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาหันมาใช้เวลากับลูกๆ เพิ่มขึ้น

7. สนับสนุนพ่อแม่ให้จำกัดกิจกรรมบางอย่างของลูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอยู่กับโลกออนไลน์

8. หยุดกังวลเรื่องอนามัยและความสะอาดที่กันเด็กให้เล่นอยู่แต่ในบ้านและไม่มีการเล่นกลางแจ้งเท่าที่ควร

9. จำไว้เสมอว่าการอ่านทุกชนิดไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป  จงใส่ใจกับสื่อที่ใช้ในการอ่าน

10. อย่ายอมให้ข้อมูลและทัศนคติจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือ  เข้ามาลดคุณค่าของพ่อแม่และครู



อ้างอิงจากหนังสือ เจาะความคิดชีวิตยุคดิจิตอล จะทำอย่างไร? หากความคิดคุณถูกกลืนด้วยเทคโนโลยี

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564

10 วิธีคิดของวัยรุ่นหน้าจอ

                                                  

"วัยรุ่นหน้าจอ (Screenagers)"

            คำนี้นำมาใช้อธิบายอาการของการอ่านจากหน้าจอ  เช่น ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกจากโทรศัพท์มือถือ และตรวจสอบเรื่องซุบซิบล่าสุดด้วยมือถือก่อนที่จะลุกออกจากเตียง โดยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ยุ่งอยู่กับหน้าจอไม่ชนิดใดก็ชนิดหนึ่ง ติดต่อเพื่อนๆและคนรู้จักผ่านหน้าจอ และอาจนั้งลงพักผ่อนด้วยการใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งในยามกลางวัน และกลางคืน









บทความนี้จะชวนไปสังเกตุพฤติกรรมของวัยรุ่นหน้าจอ และสำรวจทัศนคติใหม่ๆเหล่านี้ได้อย่างไร

10 วิธีคิดที่แตกต่างของวัยรุ่นหน้าจอ

1. วัยรุ่นหน้าจอชอบทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) ชอบประมวลผลแบบมากกว่าทีละหนึ่งอย่าง และชอบประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล ชอบอ่านข้อคามแบบกระโดดข้ามไปข้ามมา  และชอบรูปภาพมากกว่าข้อความ


2. สิ่งที่ต้องจดจำจะอยู่ในฮาร์ดไดร์ฟ   ถ้าต้องการรู้ข้อมูลอะไร พวกเขาจะกูเกิ้ลหามันทันที


3. ความสะดวกในการสร้างข้อมูล ทำให้เป็นรูปแบบเฉพาะตัว  เผยแพร่ได้อย่างสะดวกและกำลังทำให้พวกเขาสนใจแต่เรื่องของตัวเองมากขึ้น


4. วัยรุ่นหน้าจอใช้เครื่องมือดิจิตอลเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและการผูกมัดอยู่เสมอ  
ทำให้พวกเขากำลังสร้างหรือมีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น


5.  อินเตอรืเน็ตกำลังทำลายความจำเป็นในการติดต่อกันซึ่งหน้า  และสิ่งนี้ให้กำเนิดรุ่นใหม่ที่ชอบติดต่อกับเครื่องมือมากกว่าติดต่อคน

6. คนรุ่นใหม่จะคิดว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น พวกเขาก้แค่กดปุ่มๆหนึ่ง   แล้วทุกอย่างก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง


7. คนยุคดิจิตอลต้องการสิ่งแวดล้อมใหม่ที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้า การสนองตอบทันทีพูดชมเชยและให้รางวัลบ่อยๆ


8. วัยรุ่นหน้าจอมีชีวิตอยู่กับเดี๋ยวนี้ และทุกอย่างล้วนไม่มีปัญหาแม้ว่าพวกเขาอาจจะรู้หนังสือหรือเก่งเรื่องตัวเลขน้อยกว่าคนรุ่นก่อนก็ตาม  ในเมื่อความรู้แทบทุกอย่างหาได้อย่างรวดเร็ว


9. สมองของวัยรุ่นหน้าจอตื่นตัวเป็นพิเศษกับข้อมูลที่เข้ามาหลายๆทาง แม้ว่าความเข้าใจและความสนใจของพวกเขาจะเปลี่ยนไปมาตามข้อมูลที่เข้ามาอย่ารวดเร็ว และไปอย่างรวดเร็วเกือบทันที


10. สมองของวัยรุ่นหน้าจอมีความว่องไว  



จากหนังสือ เจาะความคิดชีวิตยุคดิจิตอล จะทำอย่างไร? หากความคิดคุณถูกกลืนด้วยเทคโนโลยี

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

ทำไมเราถึงอยากลาหยุดต่อ?

                                        อยากหยุดต่อ   

                                                                  

"ความล้าจากการทำงาน ทำให้เราคิดถึงวันหยุด"

                    คุณเคยคิดถึงวันหยุดอีกไหม? ทั้งที่พึ่งหยุดมาและถึงเวลาทำงานในวันพรุ่งนี้
คุณอาจจะวางแผนสำหรับวันหยุดในอาทิตย์ถัดไปแล้ว ว่าคุณจะทำอะไร จะไปที่ไหน หรือใช้เวลานอนให้คุ้มค่าอีกสักครั้ง
ดีที่สุดคือการได้ออกไปสังสรรข้างนอกกับเพื่อนๆ ได้คุยปรับทุกข์สุขกัน เพื่อแลกเปลี่ยนชีวิตและประสบการณ์ในที่ทำงาน ที่คุณพึ่งประสบพบเจอมา หรือปัญหาเก่าของคุณกับเพื่อน

แล้วที่ไหนคือสถานที่ ที่คุณคิดไว้ล่ะาร์ ร้านคาราโอเกะ ร้านเหล้า ร้านคาเฟ่ หรือบ้านเพื่อนฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ถ้าเราได้ออกไปใช้เวลาว่างของเรา มันก็ถือว่าดีกว่าการต้องนั่งทำงานที่น่าเบื่อ ที่เราล้ามาทั้งอาทิตย์แล้ว

บทสนทนา ระหว่างนั้นมักจะมีทั้งเรื่องที่สนุกสนาน เรื่องเครียดๆ เรื่องน่าเบื่อๆ เรื่องน่าตื่นเต้นสาระพัด พร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มที่คลุกเคล้ากับเรื่องเล่าของกันและกัน มันสนุกออกรสออกชาติมากเลย





สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมักจะนึกถึงคือ มื่อต้องแยกย้ายจากกัน เรามักจะเสียดายเวลาในวันพรุ่งนี้ ที่ควรจะได้เจอกันอีกครั้ง แต่พรุ่งนี้คือวันทำงาน จึงมักไม่ค่อยแปลกใจเมื่อเราสนุกมากกับวันหยุด พรุ่งนี้เราก็ยังอยากจะหยุดกันอีก

เช่นเดียวกับการได้อยู่เฉยๆ กินอาหารอร่อยๆ นอนหลับสบายๆในวันหยุดอยู่ที่ห้องที่อบอุ่นของเรา ก็ทำให้เราคิดข้ามไปถึงวันหยุดข้างหน้าอีกครั้ง ทำให้การทำงานกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ หรือมันน่าเบื่อตั้งแต่แรก วันหยุดจึงมีค่ามากเป็นพิเศษสำหรับคนทำงาน หรือมนุษย์เงือนเดือน




"เวลาทำงานคือ เวลางาน และจงใช้วันหยุดให้คุ้มค่าเช่นเดียวกัน" ❤❤

ถนน "เจริญกรุง"ถนนแบบตะวันตกสายแรกของประเทศไทย

    ถนนสายใหม่ สายแรกในประเทศไทย           แรกเริ่มเดิมทีไทยไม่มีการตัดถนนแบบ เรียบๆแบนๆ ดูมีแบบแผน เราใช้ถนนที่เรียกว่า "ทางเกวียน ...