วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข้อพิพาทหมู่เกาะทะเลจีนใต้ (อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดจากการทำแผนที่)

ข้อพิพาทหมู่เกาะทะเลจีนใต้ (อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดจากการทำแผนที่)


'A New Map of the East India Isles', from Cary's New Universal Atlas (1801), by John Cary
แหล่งที่มา: http://www.historytoday.com/bill-hayton/shadow-south-china-sea
.......ความจริงสองส่วนใหญ่ๆของข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ หนึ่ง คือ เกี่ยวกับหมู่เกาะของกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เกี่ยวพันธ์กับจีน ใต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บลูไน เวียดนาม ไปสู่การจำกัดขอบเขต อินโดนีเซีย อีกส่วนที่เกี่ยวข้องในระหว่างหมู่เกาะข้อพิพาทนี้ คือ ความจริงเกี่ยวกับกฎของระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายทางทะเล และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอเมริกาและจีนหรือจะเรียกว่าเขตอิทธิพลของมหาอำนาจทั้งสองก็ได้ค่ะ
....... ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นในเดือนมิถุนายน ปี 2476 จีนได้ตั้งคณะกรรมการในการตัดสินใจเรื่องพรมแดนของประเทศและทำแผนที่ให้ถูกต้องตามระเบียบ (เมื่อก่อนจีนไม่ได้สนใจก่อนหน้านั้นฝรั่งเศสยึดเอาไป) อาณาเขตโดยส่วนมากถูกยกให้ชาติมหาอำนาจเกินศตวรรษก่อนหน้าและรัฐบาลจีนขณะนั้นไม่มั่นใจว่าจะดำเนินการเรียกร้องสิทธิ์มากกว่านั้น ชะตากรรมของหมู่เกาะทะเลจีนใต้ตกอยู่ในความยุ่งเหยิงในกระบวนการทำแผนที่นี้
....... คณะกรรมการตัดสินใจเหล่านี้เมื่อทำแผนที่ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องออกสำรวจหมู่เกาะด้วยตนเองค่ะ แต่เป็นเพียงแค่คัดลอกแผนที่ที่มีอยู่และแปลทับศัพท์หรือชื่ออังกฤษเป็นภาษาจีน แหล่งข้อมูลที่จีนใช้คือ "China Sea Directory" ที่ตีพิมพ์ในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2442 

แหล่งที่มา: http://www.manager.co.th/China/viewnews.aspx?NewsID=9590000069661

...... ทั้งนี้ทำให้แผนที่เส้นประของจีนมีขึ้น ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ปี 2490 ในสมัยที่จีนยังเป็นสาธารณรัฐจีน (ROC ) นั้น จีนได้ลากเส้นประ เป็นรูปตัว U ทั้งหมด 11 เส้น ครอบคลุมพื้นที่ที่จีนอ้างเป็นเจ้าของมาแต่โบราณกาล อย่างไรก็ตาม เป็นการอ้างที่คลุมเครือ









อ้างอิง Bill Hayton, "Shadow on the South China Sea" 
พรรณพิไล นาคธน, "แผนที่เส้นประ 9 เส้น ปฐมบทแห่งความขัดแย้งในทะเลจีนใต้"

การโฆษณาชวนเชื่อในกิโมโนญี่ปุ่น เสื้อผ้าที่สวยงามเหล่านี้เป็นการเฉลิมฉลองอำนาจทางทหาร"

                                                                                                                     by Sam Perkins 
                                                                                                                  แปล สกุลรัตน์
เมื่อเรานึกถึงชุดกิโมโนของญี่ปุ่นเราจะมีภาพชุดกิโมโนเป็นภาพเป็นแบบฟอร์มลวดลายที่เคยเห็นจนชินตาอาจจะเป็นฉากของดอกเบญจมาศ หางนกยาวๆสวยๆที่กำลังบินอยู่เหนือต้นดอกซากุระที่กำลังผลิบาน หรือทัศนียภาพของภูเขาที่งดงามราวกับภาพวาด แต่ตอนนี้ลองจินตนาการถึงภาพเด็กๆในสงครามกันดูนะคะ ที่ถูกนำมามาทำเป็นเรื่องราวสงครามของญี่ปุ่น การสู้รบในสงคราม ทั้งหมดนี้ถูกนำมาไว้ในชุดกิโมโนเลยค่ะ

ภาพชุดกิโมโนที่เห็นเป็นภาพที่ค่อนข้างสะเทือนอารมณ์แต่ทว่าสวยงามและโลกที่มหัศจรรย์ใจของการสร้างชุดกิโมโนในลักษณะที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อของญี่ปุ่นค่ะเป็นศิลปะแบบญี่ปุ่นที่ผสมผสานไปกับศิลปแบบป็อบๆของญี่ปุ่นได้รับความนิยมและเจริญรุ่งเรืองในช่วง 1900-ถึงปี 1945 และชุดกิโมโนเหล่านี้ได้รับการค้นพบเมื่อในทศวรรษที่ผ่านมานี้ค่ะ 

A detail of a boy’s kimono from 1933, showing a boy bugler with dog, surrendering Chinese soldiers and the Rising Sun flag. NORMAN BROSTERMAN

แหล่งที่มา: http://www.atlasobscura.com/articles/the-propaganda-kimonos-japan-kept-hidden-from-outsiders


น่าสนใจว่าชุด “กิโมโนโฆษณาชวนเชื่อ” ของญี่ปุ่นนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกในช่วงท้ายของศตวรรษที่ 19 เพื่อตอบสนองความหิวกระหายความทันสมัยของสังคมญี่ปุ่นยุคนั้นค่ะ ชุดเหล่านี้จะถูกสงวนให้ใช้สำหรับภายในบ้านหรืองานปาร์ตี้ส่วนตัว
รูปแบบที่น่าสนใจของการออกแบบจากต้นปี 1920ถึงปลายปี 1930 เป็นภาพที่สดใสของการรับอารยธรรมตะวันตก อาณาคตของผู้บริโภคอารยธรรมแบบตะวันตกชาวญี่ปุ่น, ภูมิทัศน์ของเมืองด้วยรถไฟใต้ดินและตึกระฟ้าเรือเดินสมุทร, ซึ่งระเนระนาดไปด้วยเงารถและเครื่องบิน เรียกว่ามองไปทางไหนเจอวัฒนธรรมของตะวันตกเต็มไปหมดเลยค่ะนี่คือยุคแห่งการมองญี่ปุ่นว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างไร
โดยในปี 1920 กลุ่มอนุรักษ์นิยมและกองกำลังพิเศษชาตินิยมทางทหารและรัฐบาลชนชั้นนำเริ่มที่จะผลักดันการอ้างสิทธิ์และค่านิยมแบบเดิม โดยอำนาจทหารเหล่านี้มีความคิดจะผลิตอาวุธยุธโทปกรณ์ต่างด้วยตนเองเพื่อที่จะสร้างภาพของญี่ปุ่นให้เจริญแบบตะวันตกด้วยคนญี่ปุ่นเองนะคะเข้าใจอย่างนี้  “เรียกว่านี่คือช่วงเวลาในญี่ปุ่นที่ทหารมีความคิดที่ตรงกับความทันสมัยแบบตะวันตก” นั่นเองค่ะ
A depiction in silk of General Matsui Iwane entering Nanking on December 13, 1937. NORMAN BROSTERMAN
แหล่งที่มา: http://www.atlasobscura.com/articles/the-propaganda-kimonos-japan-kept-hidden-from-outsiders




A kimono from the early 1930s depicting a city of the future. NORMAN BROSTERMAN
แหล่งที่มา:http://www.atlasobscura.com/articles/the-propaganda-kimonos-japan-kept-hidden-from-outsiders

     

โดยบริบทการเมืองโลกช่วงนั้นนะคะช่วงนั้นทหารญี่ปุ่นเริ่มมองเห็นแล้วว่าตะวันกำลังลายล้อมญี่ปุ่นอยู่ค่ะทหารญี่ปุ่นอยู่เฉยไม่ได้ เพราะอังกฤษยึดฮ่องกงไปแล้ว ดัตช์ได้อินโดนีเซีย รัสเซียได้ก้าวเข้ามาอยู่ในแมนจูเรียเกือบจะหน้าบ้านญี่ปุ่นแล้ว อเมริกาก็คุมฟิลิปปินส์อยู่และได้ผนวกเอาฮาวายไป ส่วนเยอรมันได้เคลื่อนเข้ามาที่นิวกินีและซามัวญี่ปุ่นคิดว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้ว
ญี่ปุ่นจึงเอาบ้างในปี 1931 ญี่ปุ่นโต้กลับด้วยการเริ่มบุกรุกเข้าไปในแมนจูเรียและจัดการตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดทันทีที่นั่น นักประวัติศาสตร์เห็นว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ลัทธินิยมทหารของญี่ปุ่นและความก้าวร้าวและถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตกเพิ่มขึ้น ในตอนท้ายของทศวรรษมีเพียงมิตรทางตะวันตกที่ในอนาคต คือฝ่ายอักษะด้วยกันเยอรมนีและอิตาลีนั่นเองค่ะ
A kimono depicting a boy soldier on horseback with a sword, c. 1937. NORMAN BROSTERMAN
แหล่งที่มา:http://www.atlasobscura.com/articles/the-propaganda-kimonos-japan-kept-hidden-from-outsiders


ส่วน“กิโมโนโฆษณาชวนเชื่อ” เป็นชุดที่รวมรูปแบบชาตินิยมกับยึดถือวัฒนธรรมสมัยนิยม หมายถึง กองทัพทหาร ความทันสมัยของอาวุธยุธโทปกรณ์ทางทหาร เครื่องยนต์สิ่งอำนายความสะดวกแบบตะวันตก  เช่น ปืน เครื่องบิน รถถัง รถยนต์ เครื่องแบบทหาร ฯลฯ ประมาณนี้ค่ะ ภาพชุดมีสุนัขด้วยให้สัญลักษณ์เป็นความจงรักภักดีและความกล้าหาญ รูปแบบชุดกิโมโนนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวทางสงครามทางทหารของญี่ปุ่น ชัยชนะ ความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ที่นักออกแบบได้พยายามสรรหาภาพมาเพื่อจะบอกว่าญี่ปุ่นเจริญและเป็นมหาอำนาจเทียบเท่าตะวันตกค่ะ

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

World War Two: Summary Outline of Key Events (1) : เหตุการณ์ ปี 1939


แหล่งที่มา: http://ww2gravestone.com/the-phoney-war/

สามปีของความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ-ช่วงนั้นแวดล้อมด้วยสงครามกลางเมืองสเปน การผนวกดินแดนโดยใช้อำนาจจากเยอรมันและออสเตรีย การเข้ายึดครองของฮิตเลอร์ในพื้นที่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐเช็กที่ชายแดนใกล้

เยอรมนีและการบุกรุกเช็กโกสโลวาเกีย ถึงที่สุดในการเข้ายึดครองเยอรมันได้บุกโปแลนด์ในวันที่ 1 กันยายน อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามต่อเยอรมันหลังจากนั้นสองวัน ในขณะที่สหรัฐอเมริกาประกาศความเป็นกลาง แต่อเมริกาเองก็ได้ดำเนินการช่วยจัดหาอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นให้กับอังกฤษ และที่สำคัญในสมรภูมิแอกแลนด์ติกระหว่างเรือ ยู-เยอรมันและขวนเรืออังกฤษที่ได้เริ่มต้นขั้น

ยุโรปตะวันตกอยู่ในช่วงแห่งความเงียบที่หวาดกลัวในระหว่างสงครามลวงการเตรียมการสำหรับทำสงครามจริงจังอย่างต่อเนื่องแต่มีสัญญาณไม่กี่อย่างของความขัดแย้ง และประชาชนที่อพยพออกจาลอนดอนในช่วงแรกของเดือนได้ทยอยกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง หน้ากากป้องกันแก๊สถูกแจกกระจายให้กับประชาชน และทุกคนรอคอยว่าสงครามจะเริ่มต้นอีก


แหล่งที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=romancini&month=03-07-2009&group=2&gblog=9

ส่วนในยุโรปตะวันออกและสแกนดิเนเวีย อย่างไรก็ตามที่นั่นไม่มีอะไรลวงเกี่ยวกับสงครามแต่มันเกิดขึ้นแล้ว อนุสัญญาริบเบนทราบลงนามระหว่างเยอรมนีและสหภาพโซเวียตในช่วงปลายเดือนสิงหาคมรัสเซียเยอรมนีตามเข้าไปในโปแลนด์ในเดือนกันยายน ประเทศถูกแบ่งแยกระหว่างสองผู้รุกรานก่อนจะสิ้นปีนั้น และรัสเซียได้ทำการก้าวร้าวนี้ต่อไปโดยจะไปบุกฟินแลนด์ต่อ

World War Two: Summary Outline of Key Events (1) : เหตุการณ์ ปี 1939


แหล่งที่มา: http://ww2gravestone.com/the-phoney-war/

สามปีของความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ-ช่วงนั้นแวดล้อมด้วยสงครามกลางเมืองสเปน การผนวกดินแดนโดยใช้อำนาจจากเยอรมันและออสเตรีย การเข้ายึดครองของฮิตเลอร์ในพื้นที่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐเช็กที่ชายแดนใกล้

เยอรมนีและการบุกรุกเช็กโกสโลวาเกีย ถึงที่สุดในการเข้ายึดครองเยอรมันได้บุกโปแลนด์ในวันที่ 1 กันยายน อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามต่อเยอรมันหลังจากนั้นสองวัน ในขณะที่สหรัฐอเมริกาประกาศความเป็นกลาง แต่อเมริกาเองก็ได้ดำเนินการช่วยจัดหาอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นให้กับอังกฤษ และที่สำคัญในสมรภูมิแอกแลนด์ติกระหว่างเรือ ยู-เยอรมันและขวนเรืออังกฤษที่ได้เริ่มต้นขั้น

ยุโรปตะวันตกอยู่ในช่วงแห่งความเงียบที่หวาดกลัวในระหว่างสงครามลวงการเตรียมการสำหรับทำสงครามจริงจังอย่างต่อเนื่องแต่มีสัญญาณไม่กี่อย่างของความขัดแย้ง และประชาชนที่อพยพออกจาลอนดอนในช่วงแรกของเดือนได้ทยอยกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง หน้ากากป้องกันแก๊สถูกแจกกระจายให้กับประชาชน และทุกคนรอคอยว่าสงครามจะเริ่มต้นอีก


แหล่งที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=romancini&month=03-07-2009&group=2&gblog=9

ส่วนในยุโรปตะวันออกและสแกนดิเนเวีย อย่างไรก็ตามที่นั่นไม่มีอะไรลวงเกี่ยวกับสงครามแต่มันเกิดขึ้นแล้ว อนุสัญญาริบเบนทราบลงนามระหว่างเยอรมนีและสหภาพโซเวียตในช่วงปลายเดือนสิงหาคมรัสเซียเยอรมนีตามเข้าไปในโปแลนด์ในเดือนกันยายน ประเทศถูกแบ่งแยกระหว่างสองผู้รุกรานก่อนจะสิ้นปีนั้น และรัสเซียได้ทำการก้าวร้าวนี้ต่อไปโดยจะไปบุกฟินแลนด์ต่อ

ถนน "เจริญกรุง"ถนนแบบตะวันตกสายแรกของประเทศไทย

    ถนนสายใหม่ สายแรกในประเทศไทย           แรกเริ่มเดิมทีไทยไม่มีการตัดถนนแบบ เรียบๆแบนๆ ดูมีแบบแผน เราใช้ถนนที่เรียกว่า "ทางเกวียน ...