ประการแรก เป็นปัญหาการใช้เงินดอลลาร์ของทหารญี่ปุ่น เพราะเมื่อกองทัพญี่ปุ่นเข้ามาได้นำเงินดอลลาร์ทหารญี่ปุ่น และเงินตราสเตรตส์เซ็ทเติลเมนท์ ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของชาติ และส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ต้องรับเงินของทหารญี่ปุ่นแม้ว่าทางการไทยจะพยายามยื่นเรื่องไห้ทางญี่ปุ่นช่วยชี้แจงเรื่องนี้ เพราะได้กำหนดไว้แล้วว่าถ้านำเงินตราเหล่านี้มาใช้ต้องไม่เกินสิบบาทต่อคน แต่เพราะยังมีทหารและนายทหารญี่ปุ่นยังคงนำเงินเข้ามาใช้อยู่เป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่เศรษฐกิจของชาติเป็นอย่างยิ่ง
ประการที่สอง
ปัญหาเครื่องอุปโภคบริโภคราคาสูง
ทั้งนี้เพราะกองทัพญี่ปุ่นกว้านซื้อเสบียงอาหารและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับทหารญี่ปุ่นทั้ง
ในพม่า มลายู และประเทศไทยโดยเฉพาะในจังหวัดที่มีการเพิ่มของทหารญี่ปุ่น
เชลยศึกสัมพันธมิตร กรรมกรมลายูและจีน บนเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า
และสายอื่นๆตามลำดับ ทำไห้สินค้าขาดแคลนและมีราคาแพงขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
เพราะทหารญี่ปุ่นมักซื้อในราคาที่แพงเกินจริง
ประการที่สาม ปัญหาขาดแคลนข้าวสาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดทางภาคใต้
เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกข้าวไม่เพียงพออยู่แล้ว
และตลอดการประจำการของกองทัพญี่ปุ่นได้ซื้อข้าวไทยเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นเสบียง
และยังส่งออกไปไห้กับทหารญี่ปุ่นและมลายูอีกด้วย อีกทั้งยังไห้บริษัทของญี่ปุ่นเองเข้ามาซื้อข้าวโดยตรงกับไทย
โดยแอบอ้างว่าเป็นของกองทัพเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระอากรส่งออก
ทำไห้ไทยขาดแคลนข้าวสาร และปัญหาราคาข้าว
ถีบตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา จากเดิมกระสอบละ 17-19 บาท เพิ่มขึ้นเป็นกระสอบละ 26-28บาท จนเกิดการกักตุนข้าวกลายเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขจนรัฐบาลต้องส่งเงินมาเป็นจำนวนมากเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้
ประการที่สี่
ปัญหาการใช้อำนาจของทหารญี่ปุ่นในกรณีเหตุการณ์บ้านโป่งและเหตุการณ์ยึดจังหวัดระนอง
ดร พวงทิพย์ เกียรติสหกุล ได้วิเคราะห์ไว้ว่า จากการที่เกิดเหตุการณ์ทหารญี่ปุ่นมักใช้อำนาจพละการในการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย
หรือจับกุมราษฎรไทยไปลงโทษตามใจนั้น
ทำไห้เห็นว่าทหารญี่ปุ่นไม่มีความเคารพต่อความเป็นมิตรภาพระหว่างไทยกับญี่ปุ่น
เพราะที่ผ่านมามักเกิดปัญหาความรุนแรงที่ทหารญี่ปุ่นลงโทษราษฎรไทยอย่างหนักและตามอำเภอใจ
เช่น
หากคนไทยไปขโมยสิ่งของของทหารญี่ปุ่นและถูกจับกุมได้จะถูกลงโทษด้วยวิธีการที่ทรมานทั้งโบยทั้งตี
บางคนขโมยน้ำมันก๊าดก็ใช้น้ำมันก๊าดกรอกปาก หรือถ้าขโมยเสื้อ
ก็จับใส่เสื้อสังกะสีตากแดดร้อนๆ ซึ่งมีบ้างเหมือนกันที่ถูกทรมานจนตาย
โดยเฉาะเหตุรุนแรงที่บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีซึ่งเป็นที่ตั้งของกองพลทหารรถไฟที่ 9 ของญี่ปุ่นในการก่อสร้างทางรถไฟสายไทย-พม่า
และเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกสัมพันธมิตร
จากการที่ทหารญี่ปุ่นตบหน้าพระสงฆ์ไทยและได้ก่อไห้เกิดความไม่พอในในหมู่ชาวไทย
จนเกิดการสู้รบกันระหว่างชาวบ้านกับทหารญี่ปุ่น ภายหลังทั้งสองคู่กรณี
พระสงค์กับทหารที่ตบหน้าถูกนำตัวขึ้นศาลผลปรากฏว่า
พระสงค์ถูกพิพากษาภายใต้ความกดดันไห้ประหารชีวิต
แต่ตอนท้ายเห็นว่ามีพฤติกรรมโรคจิตและไม่รู้หนังสือ จึงไห้โทษจำคุกตลอดชีวิตแทน ดร
พวงทิพย์ เกียรติสหกุล วิเคราะห์ว่า “เป็นสิ่งที่ทำไห้เห็นถึงความความหยิ่งยโสและความแข็งกร้าวของทหารญี่ปุ่นที่มาในมาดผู้ยึดครอง”
[1]
แหล่งที่มา [1] พวงทิพย์ เกียรติสหกุล .
ทางรถไฟสายใต้ในเงาอาทิตย์อุทัย. นครปฐม : คณะอักษรศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร,
2554. หน้า 226.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น